*วันเข้าพรรษา*
ในปีหนึ่ง ถึงเพลา คราวสันต์
พร้อมใจกัน หว่านกล้า ไร่นาสวน
ดินชุ่มฉ่ำ ด้วยน้ำฝน คนไถพรวน
พืชทั่้งมวล ล้วนงอกงาม ไปตามกัน
การเดินทาง สัญจร ร้อนใจอยู่
ต้องคอยดู ลู่ทาง ทุกอย่างนั่น
สัตว์ตัวจ้อย น้อยนิด เหยียบติดมัน
อีกเหหัน ไม่ทันมอง ถูกร้องเรียน
ย่ำพืชผล จนเสียหาย ทำลายข้าว
เป็นเรื่องราว ร้าวรวด จนปวดเศียร
มาพูดพร่ำ ตำหนิ ถูกติเตียน
ว่าเบียดเบียน ชาวบ้าน รำคาญใจ
จึงบัญญัติ จัดระเบียบ ไว้เรียบร้อย
ภิกษุคอย อยู่ที่วัด ขัดไม่ได้
ช่วงสามเดือน ทรงเตือนบอก ถ้าออกไป
ไกลหรือไกล้ ต้องกลับวัด ดำรัสความ
เครื่องอัฏฐบริขาร ใช้แค่นี้
ให้ถ้วนถี่ เข็ม จีวร ที่ย้อนถาม
สบง บาตร รัดประคด มีดโกนตาม
อย่ามองข้าม สังฆาฏิ หม้อกรองน้ำ
เริ่มเดือนแปด แรมหนึ่งค่ำ กำหนดเสร็จ
ครบสิบเอ็ด เดือนข้างขึ้น สิบห้าค่ำ
เป็นช่วงวัน เข้าพรรษา พาน้อมนำ
พระองค์ย้ำ ทำตามนี้ ดังที่มา
*****"เข้าพรรษา" ที่แปลว่า "พักฝน" คือ วันที่พระสงฆ์อธิษฐานว่าจะพักปร
******ภิกษุจะอธิษฐานในใจตนเองว
******"อิมสฺมึ อาวาเส อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมิ หรือว่า อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมิ" ที่แปลว่า ข้าพเจ้าขออยู่จำพรรษาตลอด ๓เดือน ในอาวาสนี้หรือในวิหารนี้ โดยจะกล่าวทั้งหมด ๓ ครั้ง
ประโยชน์ของการเข้าพรรษา
๑. ช่วงเข้าพรรษานั้นเป็นช่วงเวลาท
๒. หลังจากเดินทางจาริกไปเผยแผ่พระ
๓. เป็นเวลาที่พระภิกษุสงฆ์จะได้ปร
๔. เพื่อจะได้มีโอกาสอบรมสั่งสอนแล
๕. เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาส
เขียนโดย : ออมสิน..........15.07.54
วันเข้าพรรษา
ตอบลบสาระน่ารู้
ตอบลบ