@@@...ร่วมให้กำลังใจ เพื่อนๆ สมาชิก โดยการ Comment ภาพที่เขา Post มากันหน่อยก็ดี นะครับ !!
Add a comment.

WHO'S ONLINE / จำนวนผู้เข้าชมหน้าเว็บรวม

วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

@ ความทรงจำ






*** ความทรงจำ ***

                                   แม้อยู่ไกล คนละฟาก ของขอบฟ้า
                         ปรารถนา ให้มาชิด สนิทใกล้
                     หากดวงจิต หนึ่งดวงนั้น ที่อยู่ไกล
                         รู้เอาไว้ ยังหวงหา อาทรเธอ


ฟังบทเพลง ซึ้งซึ้งนี้ ทวนความจำ
เพื่อให้ย้ำ ภาพเก่าเก่า นั้นเสมอ
หากวันไหน อยากพบเจอ อย่าละเมอ
โปรดมาเจอ ฉันได้นะ ทุกเวลา


                      ความทรงจำ วันเวลา ที่ผันผ่าน
                      ยังทราบซ่าน ระลึกถึง กันอยู่นา
                    จะอยู่ไหน ไกลเพียงใด ขอมาหา
                         เจรจา ก็ยินดี ต้อนรับเธอ



เขียนโดย : ซอมพอแดง.................190654

@ เกือบ



*เกือบ*

                         จะเป็นใคร ในชีวิต เคยผิดพลาด
                     ความหวังวาด แล้วพลาดล้ม ไม่สมหวัง
                         ใจหวาดหวั่น ดังมันรุม สุมประดัง
                    มองว่าพัง พังอย่างเดียว เปล่าเปลี่ยวใจ

คิดวกวน จนที่สุด อาจหลุดโลก
ความเศร้าโศก มันปิดหมด คอยกดไว้
มองด้านลบ พบอย่างเดียว ทุกเที่ยวไป
ทางแก้ไข เหมือนไม่มี อยากหนีตาย


                            จึงได้รู้ ดวงจิต คนคิดสั้น
                      พอเจอมัน กับตัวเอง ความเก่งหาย
                     วูบทันควัีน ใจมันยอม พร้อมทำลาย
                          เสียงลูกชาย เรียกป๊า ผวาคืน


พอรอดมา บอกกล้าตาย อย่าอายสู้
จะลองดู รู้ให้จริง ทิ้งขมขื่น
แม้หกล้ม อย่ามัวร้อง เราต้องยืน
หยุดสะอื้น กลืนน้ำตา ฟันฝ่าไป


                         มองย้อนหลัง ยังปัญหา เวลานี้
                           ถ้าเรามี สติมั่น อย่าหวั่นไหว
                         เอาธรรมมะ พุทธองค์ ดำรงใจ
                   หนักแค่ไหน ไม่ผิดทาง ทุกอย่างคลาย






เขียนโดย : ออมสิน................./.๒๙.๐๖.๒๕๕๔

@ พันราตรี



พ้นราตรี


                       พระอาทิตย์ นิมิตรร่าง กระจ่างแสง
                         เป็นสีแดง แรงกล้า ตอนฟ้าเปิด
                      เริ่มวันใหม่ ขอให้ใจ ได้เพลินเพลิด
                           จงบังเกิด ล้ำเลิสดี มีทุกคน

ขับความหนาว คราวราตรี นี้จางหาย
แผ่กระจาย ความอบอุ่น ทุกแห่งหน
ความเจ็บปวด ผิดพลาดเหงา เศร้ากมล
ให้ผ่านพ้น ดังราตรี สู่ทิวา



เขียนโดย : ออมสิน ๒๒.๐๔.๒๕๕๔







@ เหนื่อยนะ ???

จะมีใครบ้างไหม...ที่มีใจรู้สึกเช่นนี้

มันเริ่มมีทุกที.....ไม่สุขฤดีเหมือนอย่างเคย



ครั้งก่อนมีความรัก...ดวงหน้าพักตร์อาบสีเลือด

บางวันสีจางเผือด...ดั่งถูกเชือดเชือนด้วยมีด



ชีวิตเศร้าหมองโหยหา...ช่างอ่อนล้าเหมือนถูกกรีด

ทุกอย่างถูกบดรีด...ดูเซียวซีดซ้ำซากนัก



หากเวลาย้อนกลับ...มิให้ลับวัฏจักร

กายาแลวงพักตร์...ให้พิทักษ์อยู่ดั่งเดิม



ก็นั่นแหล่ะแค่ฝัน...ก็เหมือนกันแม้อยากเติม

สุขสดใสเคยมีเสริม...คราวนี้เริ่มจืดจางลง


                                         
                   วันเวลา ได้หมุนเวียน เปลี่ยนทิศทาง

ทุกอย่างร้าง เศร้าหมองหม่น มิดั่งหงส์

มองทางไหน เปลี่ยวอ้างว้าง จำต้องปลง

โอ้อกตรม ข่มขื่นจิต สะท้านทรวง



เอางานเดิน เมินทุกสิ่ง มิ่งขวัญเจ้า

ใครกันเล่า เฝ้าฝากฝัน จันทร์เต็มดวง

แหงานหน้ามอง จ้องจนลับ ดับลาล่วง

ใจยังห่วง ทวงถามหา ดาราพราย


หนื่อยนะ...คิดย้อน

เหนื่อนนะ...อ้อนดาว

เหนื่อยนะ...มิพราว

เหนื่อยนะ...หนาวกาย



คิดย้อน...มิอยากหวน

คิดย้อน...กวนมิหาย

คิดย้อน...เจ็บปวดกาย

คิดย้อน...สายแล้วเอย



อ้อนดาว...พราวบนฟ้า

อ้อนดาว...จะว่าเชย

อ้อนดาว...ยังมิเคย

อ้อนดาว...เผยความใน



มิพราว...ดาวค้างฟ้า

มิพราว...เวหาไหว

มิพราว...มืดมิดไกล

มิพราว...ในนภา



หนาวกาย...เมื่อคุ้นคิด

หนาวกาย...จิตเหนื่อยล้า

หนาวกาย...หทัยหา

หนาวกาย...ฟ้าหมองมัว


ทุกอารมณ์ที่เอ่ยกล่าว


ดูเหมือนราวมิไ้ด้มั่ว

คนเราผ่านมันน่ากลัว

นี่แหล่ะชัวร์มีทุกคน





โดย : ซอมพอแดง...........02-05-54/ 2.38 AM
(ขอบพระคุณเจ้าของภาพประกอบนะคะ)

@ โคลง * ตัวตน *


โคลง

สรรสร้างถูกทางล้วน.........สิ่งดี
ทุกอย่างหนทางมี............ต่างใช้
จะยากจนเศรษฐี.............คุณค่า เทียมกัน
สุดแค่ดีเลวไซร้...............บ่งชี้ ตัวตน


เขียนโดย :  Omsin Vitoonphong.........../๐๔.๐๖.๒๕๕๔

@ คำว่าพ่อ


ไม่เคยกลัว ความยากจน อดทนสู้
หันมาดู ลูกน้อย น้ำตาไหล
บอกจะเรียน เก่งเก่ง เร่งให้ไว
พอเติบใหญ่ ได้ช่วยพ่อ รอไม่นาน

นึกถึงเมีย คนดี คู่ชีวิต
ซักเพียงนิด ไ่ม่เคยมี ที่หักหาญ
ไม่ต่อว่า ไม่ครวญคร่ำ ทำแต่งาน
แสนสงสาร ลูกเมีย ละเหี่ยใจ

มรดก ตกทอด แต่ปู่ย่า
เป็นที่นา ผืนน้อย จำนองไว้
ถ้่าทำนา ครานี้ มีกำไร
ขายข้า่วได้ ไถ่ทันที เอาที่คืน

ดังเคราะห์ซ้ำ กรรมส่ง ลงที่นี่
ฝนไม่มี แล้งจัด กัดฟันฝืน
เริ่มทำใหม่ น้ำท่วมล้น ทนกล้ำกลืน
มันสะอื้น ในอก ตกข้างใน

ถึงเวลา ชำระหนี้ ไม่มีจ่าย
ดอกมากมาย ทบต้นหมด เกินชดใช้
จนสุดท้าย ถึงที่สุด นาหลุดไป
มันหมองไหม้ ใจหม่น สิ้นหนทาง

จะลองสู้ ดูอีกที มีความหวัง
เป็นจับกัง ในเมืองใหญ่ ที่ไกลห่าง
หมดเรี่ยวแรง แสงแดดร้อน ไม่ผ่อนวาง
ได้เงินบ้าง รวบรวมไว้ ให้คนคอย

ในยามว่าง กางจดหมาย อ่านหลายเที่ยว
คำคำเดียว บอกพ่อ อย่าท้อถอย
นั่งหลับตา เห็นหน้าเมีย กับลูกน้อย
รอซักหน่อย อีกไม่นาน กลับบ้านเรา

แม่จ๋าแม่ พ่ออยู่ไหน ไปนานนัก
งานจะหนัก ไหมหนอ พ่อคงเหงา
รีบกลับเถอะ หนูคิดถึง พ่อไม่เบา
เงินไม่เอา ก็ได้ ให้พ่อมา

ดึงตัวลูก มากอดไว้ บอกให้รู้
ที่พ่ออยู่ มันแสนไกล ยากไปหา
เงินก้อนนี้ ใช้ให้ดี มีคุณค่า
จากชีวา ของพ่อ ไม่ขอใคร

มันหวิวหวิว ยืนไม่ไหว หัวใจสั่น
มื้อกลางวัน ไม่เคยกิน เก็บเงินไว้
งานทุกอย่าง กลางแดดร้อน อ่อนแรงไป
ไม่สนใจ ตัวเอง เร่งทำงาน

เหมือนหลับฝัน ทันใด ใจลอยล่อง
ยินเสียงร้อง ก้องตะโกน อลหม่าน
ลืมตามอง ตรองตรึก นึกไม่นาน
"จากนั่งร้าน มาสู่ดิน ก่อนสิ้นใจ"


เขียนโดย : Omsin Vitoonphong............/๐๔.๐๖.๒๕๕๔
(ขอบพระคุณเจ้าของภาพประกอบครับ)

@ ข้าวห่อใบบัวสองสี



ข้าวกล้อง ข้าวมันปู.............ปนกันอยู่ เอาไปหุง
ต่อเนื่อง เตรียมเครื่องปรุง.....แช่เห็ดหอม ก่อนทันใด


กระเทียม ต้นหอมซอย.......เนื้อไก่คอย กุ้งแห้่งใหม่
กุนเชียง ไข่เค็มใช้.............แยกไข่ขาว เอาไข่แดง


แปะก๊วย ด้วยอย่าเฉื่อย.......ทั้งลูกเดือย ต้มเร็วเข้า
กระป๋อง ถั่วลันเตา..............เปิดเอาไว้ เตรียมให้พร้อม


กะทะ น้ำมันหน่อย..............กระเทียมซอย ปล่อยเห็ดหอม
เนื้อไก่ กุ้งแห้งล้อม.............ปรุึงซีอิ้ว ปลิวพริกไทย


น้ำตาล ซักหนึ่งช้อน............เบาไฟก่อน ดูเนื้อไก่
เกือบสุก ทุกอย่างใส่...........โรยต้นหอม ผัดพร้อมกัน


ไข่แดง เก็บไว้ก่อน............จะใช้ตอน ที่ห่อนั่้น
ข้าวสุก คลุกเคล้ากัน...........แค่นิดหน่อย ค่อยปิดไฟ


ขั้นตอน สอนการห่อ............ใบบัวรอ ไข่แดงใส่
เครื่องก่อน ข้าวตามไป.........พับริมเข้า เอาไม้กลัด


ด้านพับ วางลงซึ้ง................ยกไปนึ่ง น้ำเดือดจัด
เวลา ถ้าชี้ชัด......................สิบนาที เต็มที่จ๊ะ


เอามีด กรีดด้านบน..............เครื่องมากล้น คนเห็นนะ
น่ากิน กลิ่นจะจะ..................หอมใบบัว ยั่วน้ำลาย

เขียนโดย : Omsin Vitoonphong.........../๒๗.๐๕.๒๕๕๔
(ขอบพระคุณผู้เอื้อเฟื้อภาพครับ)

@ *กาพย์ห่อโคลงกระทู้* สำนวนไทย "ไ่ก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่"


สำนวนไทย "ไ่ก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่"

"ไก่" หากินเขี่ยคุ้ย.........."งู" เจอ
"เห็น" จึ่งทักบอกเธอ......."เห็น" เต้่า
"ตีน" เจ้าโผล่นะเออ........"นม" นั่น บ่อมี
"งู" หดตีนหลบเข้า.........."ไก่" นั้น ปิดนม......

*ความหมาย สำนวนนี้.......ตรงตัวดี ชี้ให้เห็น
               งูไก่ ใช้เปรียบเป็น............เช่นสองคน นั้นทันกัน

*คนหนึ่ง ซึ้งเล่ห์เหลี่ยม.....อีกคนเตรียม ดักทางนั้น
ต่างคน ต่างรู้ทัน...............ไม่มีใคร แน่กว่าใคร


                  *เลยกิน กันไม่ลง............อย่าพึ่งงง พาลสงสัย
             สองชั่ว มั่วกันไป..............อย่าตามอย่าง ทางนักเลง


*งูนั้น ไม่มีขา.................ไก่บอกว่า ขาพาเร่ง
ลูกไก่ หากินเอง..............แต่งูบอก ไก่มีนม




เขียนโดย : Omsin Vitoonphong........../ ๑๖.๐๔.๒๕๕๔
(ขอบพระคุณเจ้าของภาพประกอบครับ)


@ ไม้ใกล้ฝั่ง




ปีแรกแรก อวบอิ่ม ผุดผาดผ่อง
เนื้อนวลยอง พิศมอง มิมัวหมอง
แตกหนุ่มสาว เนื้อทอง อำไพทอง
ทุกอย่่างลอง ท่องเที่ยว ทั่วพนา

                           พอแก่ตัว กลัวจริง ทุกสิ่งสรรพ
                            นานานับ ล้วนล่วง กาลเพลา
                            ไม้ใกล้ฝั่ง จากหนุ่ม สาวดารา
                            มวลมังสา ร่วงโรย ไปตามวัย



                                     
เขียนโดย : ซอมพอแดง............230654

(ขอบพระคุณเจ้าของภาพประกอบนะคะ)





@ กุหลาบหลากสี

pirun.ku.ac.th

กุหลาบดอกนี้สวยดีมีสง่า

ดูแล้วงามตามีมากมายหลายสี

กลีบช่างนวลอ่อนช้อยหวานนักมากมี

ราชินีดอกไม้ไทยหอมกรุ่นชื่นใจ




เขียนโดย : แมงก่ำเบ้อ

@ อย่า ไป ท้อ ใจ

*อย่า ไป ท้อ ใจ*

"อย่าไปท้อ" ขอให้ฝัน แม้มันสูง
"อย่า" ไปจูง ตัวเราเอง เร่งให้ต่ำ
"อย่า" ไปคิด จิตจดจ่อ ต่อความจำ
"อย่า" ไปซ้ำ ทำผิดทาง แต่อย่างใด


"ไป" ให้ถึง ซึ่งจุดหมาย ปลายทางฝัน
"ไป" ให้ถึง ซึ่งสักวัน ไปให้ได้
"ไป" ให้ถึง ซึ่งกำลัง ทั้งใจกาย
"ไป" ให้ถึง ซึ่งแม้ตาย ก็ต้องลอง


                              "ท้อ" ทำไม ใครคิดท้อ คงไม่ถึง
                              "ท้อ" ทำไม เราก็หนึ่ง ไม่มีสอง
                          "ท้อ" ทำไม ถ้าเราไป ตามครรลอง
                          "ท้อ" ทำไม ตามใฝ่ปอง ต้องสู้ไป

"ใจ" มุ่งมั่น อย่าหวั่นไหว ในทางอื่น
"ใจ" ขมขื่น สะอื้นเศร้า ข่มเอาไว้
"ใจ" เข้มแข็ง สุดแรงหล้า ฝ่าทางไกล
"ใจ" คือใจ ที่ต้องใฝ่ ในทางดี
เขียนโดย :ออมสิน...........๑๖.๐๔.๒๕๕๔

@ เป็นเพราะรัก

ขอบพระคุณเจ้าของภาพครับ
เป็น น้ำค้าง ที่พร่างพรม เต็มผืนหญ้า
เป็น ธารา หมู่มัจฉา มาแหวกว่าย
เป็น นภา เพื่อเมฆา พลิ้วพรรลาย
เป็น จันทร์ฉาย ที่ปลายฟ้า ยามราตรี

เพราะ โพยม โหมน้ำค้าง กลางผืนหญ้า
เพราะ ฝูงปลา ล้วนพึ่งพา สาครนี้
เพราะ ว่าเมฆ อยู่บนฟ้า ทุกนาที
เพราะ สุรีย์ รุจิรา ทิวาบรรพ์

รัก ต้องล้น อดทน จนสมรัก
รัก ต้องหนัก ซื่อตรง คงอย่างนั้น
รัก ต้องใช้ น้ำใจ ให้แก่กัน
รัก ต้องมั่น ทุกวัน นิรันดร
เขียนโดย : Omsin Vitoonphong..........๑๙.๐๔.๒๕๕๔

@ กระดูกหมู อบน้ำผึ้ง

กระดูกหมูอ่อน ประมาณ 7-8 ขีด
กระเทียมสดสับหยาบ ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทย
รากผักชี(เม็ดผักชีถ้ามีก็ดีครับ)
น้ำผึ้งแท้ สองช้อนโต๊ะ
ซ๊อสปรุงรส ตามสมควร
น้ำมันหอย
เกลือนิดหน่อย
แป้งมันหนึ่งช้อนชา(ทำให้กระดูกหมูนุ่ม)
ซีอิ้วดำ นิดหน่อยพอแค่มีสี
อ้อย หั่นเป็นท่อนตามขวาง

วิธีทำ

เคล้า เครื่องปรุงกับกระดูกหมู หมักไว้ให้เข้าที่ เอาอ้อย วางก้นหม้อที่เตรียมไว้ อาจใช้สับปะรดก็ได้ ถ้าใช้อย่าเอาสับปะรดเปรี้ยว จะเป็นอีกรสหนึ่ง เอากระดูกหมูที่หมักเข้าที่วางบนอ้อยไฟเบา อบไว้ ไปอ่อนสุึด ประมาณ ครึ่งชม. เิปิิดฝาหอมฟุ้ง ชิมรส ออกเค็ม หอม หวานกลมกล่อม

                                           

เขียนโดย : Omsin Vitoonphong
ขอบคุณผู้เือื้อเฟื้อภาพครับ

@ จิตมันชอบ


ด้วยผัสสะ คละเคล้า เข้าในจิต
ด้วยความคิด เป็นเหตุ กิเลสหลง
ด้วยปรุงแต่ง แบ่งอย่างดี ที่อารมณ์
ด้วยผสม กลมกล่อม ยอมใจตัว

สั่งว่าชอบ ตอบรัก มัีนรักด้วย
สั้งว่าห่วย อันไหนสวย สั่งให้มั่ว
สั่งให้ใจ ไล่กิเลส ทำไมกลัว
สั่งละชั่ว ละกิเลส สั่งไม่เป็น

เพราะกิเลส มันหวาน ผลาญความคิด
เพราะว่าจิต เมามัว ตัวไม่เห็น
เพราะปล่อยใจ ไร้พระธรรม นำความเย็น
เพราะแสนเข็็ญ เห็นว่ายาก หากจะทำ
เขียนโดย : Omsin Vitoonphong

@ มาม่า รอบบ่าย



ยังเหลืออีก หนึ่งคน ผมออมสิน
คิดจะกิน ของนั้นหรือ คือมาม่า
ใส่หมูสับ ลงไป ไข่ตามมา
แล้วปิดฝา เปิดไฟ ให้พอดี

เพิ่มน้ำปลา ไปนิด น้ำตาลหน่อย
พอหมูลอย ก็ใส่เส้น เลยนะซี่
ใส่ผักกาด โรยต้นหอม กับผักชี
ยกมาที่ หน้าคอม พร้อมเปิดซิง

บีบมะนาว เป็นม่าม่า ต้มยำแซบ
เส้นเป็นแถบ เหนียวนุ่ม หมูก็นิ้ง
ยิ่งน้ำซุบ ขอบอก แซบจริงจริง
แทบจะทิ้ง หูฉลาม แลกชามเดียว


เขียนโดย : Omsin Vitoonphong
(ขอบพระคุณภาพจาก internet)

คลังรูปภาพ

ตัวละครในวรรณคดี

ตัวละครในวรรณคดี
คลิกๆ ค้นหาได้นะคะ

อาหารไทย

อาหารไทย
รูปภาพอาหารไทยๆ มีให้เลือกที่หลากหลาย คลิกๆ เข้าดูเลยนะคะ

วันใสๆวัยร่าเริง

วันใสๆวัยร่าเริง
ความสดใสและความอ่อนไหวในของอารมณ์